Feeds:
เรื่อง
ความเห็น

อันดับ 3 “เมืองเจนีวา” (Geneva) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

เจนีวา เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (รองจากซูริค) โดยมีประชากรอาศัยอยู่ในเขตตัวเมืองราว 185,000 คน และยังเป็นศูนย์กลางด้านการเงินที่สำคัญเป็นอันดับ 6 ของโลก เจนีวา ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองนานาชาติ เนื่องจากเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างชาติสำคัญๆ หลายองค์กร อาทิ สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติประจำทวีปยุโรป องค์การอนามัยโลก (WHO) องค์การการค้าโลก (WTO) เป็นต้น นอกจากนี้ เจนีวายังเป็นสถานที่จัดตั้งองค์กรสันนิบาตชาติ และกาชาดสากล ทั้งยังเป็นต้นกำเนิดของ www (World Wide Web) ตลอดจนเครื่องเร่งอนุภาคที่มีขนาดใหญ่และมีพลังงานสูงสุดในโลก หรือที่เรียกว่า Large Hadron Collider (LHC)

อันดับ 2 “เมืองซูริค” (Zurich)ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

เมืองซูริค (Zurich)ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ซูริค เป็นหนึ่งในเมืองที่มีความมั่งคั่งที่สุดในยุโรป และมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีประชากรอาศัยอยู่ในตัวเมืองทั้งสิ้นราว 1.68 ล้านคน เมืองนี้เป็นศูนย์กลางทางด้านการค้าและวัฒนธรรมของประเทศ จนได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นอก จากนี้ ซูริค ยังเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องว่ามีคุณภาพการดำเนินชีวิตดีที่สุดในโลกจาก ผลการสำรวจของหลายสำนัก นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006-2009

อันดับ 1 “เมืองเวียนนา” (Vienna) ประเทศออสเตรีย

เมืองเวียนนา (Vienna) ประเทศออสเตรีย

ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลกประจำปี 2009 จากผลการสำรวจของ Mercer เมือง ดังกล่าวมีความเข้มแข็งและมั่นคงทั้งทางด้าน เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการเมือง เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่า แสนโรแมนติกเมืองหนึ่งของโลก กรุงเวียนนา ยังได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งดนตรีคลาสสิก อมตะของโลก ซึ่งนักแต่งเพลงคลาสสิกไม่ว่าจะเป็น บีโธเฟ่น โมสาร์ท, ชูเบอร์ก, บราห์ม หรือ โยฮัน สเตราส์ ล้วนมาจากที่นี่

3.Nozomi Shinkansen : รถไฟความเร็วสูง “โนโซมิ ชินคันเซ็น”
สถานที่ : ประเทศญี่ปุ่น ให้บริการเส้นทางสายโทไกโด/ซันโย ชินคันเซ็น จากโตเกียวไปฮากาตะ

ระยะทาง : 664 ไมล์ (1,068 กิโลเมตร)

ความเร็วขณะวิ่งให้บริการ : 186 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือราว 299-300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ความเร็วสูงสุด : 275 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 442 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

2. Shanghai Maglev : เซี่ยงไฮ้แม็กเลฟ
สถานที่ : นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน วิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารระหว่างสถานีหลงหยาง เขตพู่ตง กับท่าอากาศยานนานาชาติพู่ตง ในอนาคตมีแผนขยายเส้นทางไปยังท่าอากาศยานหงเฉียว เชื่อมต่อไปเมืองหังโจว

ระยะทาง : 19 ไมล์ (30 กิโลเมตร)

ความเร็วขณะวิ่งให้บริการ : 268 ไมล์ ต่อชั่วโมง หรือราว 431 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ความเร็วสูงสุด : 311 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

1. Train a Grande Vitesse (TGV) : รถไฟความเร็วสูงเตเจเว (ทีจีวี)
สถานที่ : ประเทศฝรั่งเศส ชุมทางตั้งต้นเริ่มจากกรุงปารีสแล่นออกสู่สถานีใน 200 กว่าเมืองทั่วประเทศ เช่น นีซ ลียง อาวินยง และดิฌอง

ระยะทาง : 538 ไมล์ (865 กิโลเมตร)

ความเร็วขณะวิ่งให้บริการ : 217 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือราว 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ความเร็วสูงสุด : 356 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 572 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

3. Niagara Falls
น้ำตกไนแอการา (อังกฤษ: Niagara Falls ; ฝรั่งเศส: les Chutes du Niagara) เป็นน้ำตกขนาดใหญ่หลายแห่งประกอบกัน ตั้งอยู่บนแม่น้ำไนแอการาทางตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือ บนพรมแดนระหว่างประเทศแคนาดากับสหรัฐอเมริกา น้ำตกไนแอการาประกอบด้วยน้ำตกสามแห่งที่แยกออกจากกัน คือ น้ำตกเกือกม้า (Horseshoe Falls บางครั้งก็เรียก น้ำตกแคนาดา) สูง 158 ฟุต, น้ำตกอเมริกาสูง 167 ฟุต, และน้ำตกขนาดเล็กกว่าที่อยู่ติดกัน คือน้ำตก Bridal Veil. แม้น้ำตกไนแอการาจะไม่สูงอย่างโดดเด่น แต่ก็กว้างมาก

น้ำตกไนแองการามีจุดชมวิวที่สวยงามและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของทั้ง 2 ประเทศมานานกว่าศตวรรษ

แม่น้ำไนแอการาไหลมาจากทะเลสาบอีรีไหลผ่านน้ำตกไนแอการาลงสู่ทะเลสาบออนตาริโอ เมืองสองฝั่งของน้ำตกในสองประเทศนั้นเป็นเมืองแฝด โดยในฝั่งแคนาดาคือ ไนแอการาฟอลส์ ออนตาริโอ ส่วนในฝั่งสหรัฐอเมริกาคือ ไนแอการาฟอลส์ มลรัฐนิวยอร์ก

2. Victoria Falls
ผู้ค้นพบและนำมาเผยแพร่ให้ชาวโลกได้รับรู้ ก็คือ เดวิด ลิฟวิ่งสโตน ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1855จุดประสงค์ในการสำรวจนั้นเพื่อต้องการที่จะทราบว่าลำน้ำสายหนึ่งซึ่ง เมื่อเกิดขึ้นแล้ว เหตุใดจีงหายเข้าไปในซอกรอยแยกของแผ่นดิน ลิฟวิ่งสโตนเริ่มเดินทางไปตามเส้นทางของแม่น้ำแซมเบซีเพื่อหาต้นกำเนิดของ แม่น้ำสายนี้ หลังจากผ่านความยากลำบากมามากมาย ลิฟวิ่งสโตนก็เดินทางมาถึงเขตแองโกลา ซึ่งตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลด้านแอตแลนติก ในช่วงเดินทางกลับนั้น ลิฟวิ่งสโตนเดินทางลงมาตามลำน้ำเพื่อไปยังบริเวณชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก เขาก็ได้พบกับน้ำตกวิคตอเรีย ภายหลังอยู่ในแอฟริกาได้ 16 ปี หลังจากนั้นลิฟวิ่งสโตนจึงเดินทางกลับอังกฤษ แล้วเขาก็ได้แถลงความจริงออกมาว่า บริเวณภายในส่วนใหญ่ของทวีปแอฟริกานี้มิได้เป็นเพียงทะเลทรายเท่านั้น แต่ยังมีดินแดนที่มีน้ำอุดมสมบูรณ์ มีพื้นที่เป็นป่าและน้ำมากพอสมควร หลังจากที่ได้ค้นพบแล้ว เดวิด ลิฟวิ่งสโตน จึงได้ทราบว่า น้ำตกแห่งนี้เกิดจากภูเขาไฟระเบิดเมื่อ 150 ล้านปีที่ผ่านมา จนทำให้แผ่นดินบริเวณนี้แยกออกเป็นสองส่วน กลายเป็นน้ำตกอันยิ่งใหญ่ และเขาก็ได้ตั้งชื่อน้ำตกแห่งนี้ว่า “น้ำตกวิคตอเรีย”

น้ำตกวิคตอเรียมีความยาวถึงเกือบ 2 กิโลเมตร และมีเนื้อที่ครอบคลุมถึงสองประเทศ คือ ซิมบับเว และแซมเบีย น้ำตกแห่งนี้ไหลลงสู่แม่น้ำแซมเบซีที่วกราก ในช่วงที่มีปริมาณน้ำมาก น้ำตกนี้จะแย่งกันทะลักพวยพุ่งลงไปยังเบื้องล่างกระทบกับหินทำให้เกิดเสียง ดังและมีฟองฝอยฟุ้งเป็นละอองน้ำ ดุจมีหมอกครื้มครอบคลุมไปทั่วบริเวณ และขณะเดียวกันจำนวนน้ำที่มาก ก็ทำให้เกิดเสียงดังกึกก้องสะท้านดุจเสียงคำรามของสัตว์ป่า ในบางจุดเกิดละอองน้ำที่พวยพุ่งขี้นสู่ท้องฟ้าได้ถึง 500 เมตร สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล ๆ ละอองน้ำแห่งนี้จึงได้รับสมญานามว่า “ควันซึ่งส่งเสียงร้องคำราม” ความลึกของน้ำตกแห่งนี้เริ่มตั้งแต่ 90-108 เมตร โดยเริ่มจากจุดแรก ที่เรียกว่า เดวิด คาทาแรคท์ (Devil’s Cataract) ซึ่งบริเวณนี้จะมีแก่งในแม่น้ำหรือคาทาแรคท์อยู่ถัดออกไป และช่วงนี้จะเป็นช่วงสำคัญของน้ำตก

ถ้ามองไปทางด้านตะวันออกเมื่อยามพระอาทิตย์ปรากฏจะสามารถเห็นรุ้งกินน้ำได้ อย่างชัดเจน และนับเป็นจุดที่สวยที่สุด โดยเรียกจุดนี้ว่า คาทาแรคท์ตะวันออก ใกล้ ๆ บริเวณนี้มีรูปปั้นของลิฟวิ่งสโตนตั้งอยู่ สายน้ำเหล่านี้จะไหลเรื่อยกลายเป็นแม่น้ำแซมเบซีซึ่งจะขยายใหญ่ขึ้นทุกที ๆ ผ่านช่องเขาบาโตกัวในลักษณะวกรากและรุนแรงจนมีผู้ตั้งชื่อเขตนี้ว่า “หม้อน้ำเดือด” (Bolling Pot) จากนั้นก็จะไหลผ่านที่ราบ ผ่านทางรถไฟ เชื่อมต่อระหว่างซิมบับเวกับแซมเบีย และบริเวณสะพานแห่งนี้เองก็จะเป็นที่ที่ใช้สำหรับโดดบันจี้จัมพ์ของผู้ที่ รักความสะใจ เพราะที่นี่นับเป็นจุดโดดที่สูงที่สุดในโลก น้ำตกวิคตอเรียแห่งนี้ไม่เคยเหือดแห้ง สามารถผลิตน้ำได้ถึงห้าล้านคิวบิคเมตรต่อนาที ในช่วงหน้าฝน ช่วงที่คนมาเที่ยวมากที่สุดก็คือระหว่างเดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายนเพราะ ทิวทัศน์จะสวยงาม มีละอองน้ำไม่มาก

1. Iguazu Falls
น้ำตก Iguazu เป็นน้ำตกที่น่าประทับใจมาก ที่นี่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกทางธรรมชาติของโลกอีกแห่งหนึ่งจากองค์การ ยูเนสโก เพราะ Iguazu เป็นน้ำตกซึ่งมีขนาดใหญ่เป็น 5 เท่าของน้ำตกไนแองการ่า ในอเมริกาเหนือ น้ำมีปริมาณที่เยอะมาก สวยมากๆ เลย

น้ำตก Iguazu อยู่ตามหน้าผา ริมแม่น้ำอีกวาซู ประกอบด้วยน้ำตก 275 แห่ง สูงระหว่าง 60-82 เมตร แต่ละน้ำตก มีชื่อของมันโดยเฉพาะ ที่สำคัญน้ำตก Iguazu กว้างมาก ว่ากันว่าทั้งหมดของน้ำตกแห่งนี้กว้างราว 2 ไมล์ครึ่ง นับเป็นน้ำตกที่กว้างที่สุดในโลก น้ำตกทั้ง 275 แห่งอยู่ในอาร์เจนตินา ราว 90% และไม่ได้มีน้ำติดต่อกันเป็นผืนเดียว บางตอนเป็นซอกหิน บางตอนเป็นหน้าผา น้ำตกบางแห่งไหลเอื่อยๆ ในแม่น้ำมีเกาะแก่ง น้ำค่อนข้างวกระทบกับโขดหิน ทำให้ละอองน้ำกระจายเป็นวงกว้าง

ช่วงที่สวยที่สุดอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม เพราะมีน้ำมาก น้ำตกไหลแรง ส่วนเดือนสิงหาคม-ตุลาคม เป็นช่วงที่แห้งแล้งที่สุด

สุด ปลายทางอีกด้านหนึ่งเป็นน้ำตกรูปเกือกม้า เป็นน้ำตกที่สิ้นสุดของ Iguazu เพราะขาข้างหนึ่งของเกือกม้าอยู่ฝั่งบราซิล อีกข้างหนึ่งอยู่ฝั่งอาร์เจนตินา ทำให้แผ่นดินของ 2 ประเทศเชื่อมต่อกันอีกครั้ง นับเป็นน้ำตกที่สวยที่สุด มีปริมาณน้ำมากที่สุดและไหลแรงที่สุดในจำนวน 275 แห่ง มีชื่อว่า GARGANTA DO DIABLO ในช่วงหน้าร้อนจะมีปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำให้ดูด้วย

นอกจากนี้ที่นี่ยังผลิตกระแสไฟฟ้าได้อย่างมหาศาลจากพลังน้ำของน้ำตกแห่งนี้ด้วย

3. Koenigsegg CCX
ทำความเร็วได้ 250 ไมค์/ชม. เครื่องยนต์ 806 แรงม้า อัตตราเร่ง 0-60 ใน 3.2 วิ เครื่องยนต์ 90 Degree 8 สูบ ราคาเปิดตัว 695,000 เหรียญ ผลิตในสวีเดน

2. Bugatti Veyron
ทำความเร็วได้ 253 ไมค์/ชม. เครื่องยนต์ 1001 แรงม้า อัตตราเร่ง 0-60 ใน 2.5 วิ เครื่องยนต์ Narrow Angle 16 (w16) ตัวถังทำจากอลูมินั่ม ราคาเปิดตัว 1,444,000 เหรียญ

1. SSC Ultimate Aero
ทำความเร็วได้ 257 ไมค์/ชม. เครื่องยนต์ 1183 แรงม้า อัตตราเร่ง 0-60 ใน 2.7 วิ เครื่องยนต์ Twin-Turbo 8 สูบ ราคาเปิดตัว 654,400 เหรียญ

3. SeaDream II หนัก 4,333 ตัน จุ 108 คน ล่องในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน คาริเบียน เจ้าเรือลำนี้บอกกับทุกคนว่า “It’s yachting, not cruising” เป็นความพยายามในการฉีกแนวการล่องเรือสำราญให้ต่างจากลำอื่นๆ ประมาณว่ามากับเรือลำนี้ เหมือนกับเดินทางด้วยเรือยอช์ทส่วนตัว อืม เข้าท่าจริงๆด้วยแฮะ

2.Silver Wind หนัก 16,927 ตัน จุ 296 คน แม้จะไม่ใช่ลำใหญ่สุดในตระตัวฉันล Silverseas Cruises แต่ว่าเจ้า Silver wind ก็สร้างความอลังการ หรูหราได้ไม่แพ้พี่น้องของมันเลย ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งสไตล์เมดเตอร์เรเนียน หรือว่าเครื่องสุขภัณฑ์ของ Bvlgari ในห้องสวีททุกห้อง และเส้นทางการเดินเรือในอเมริกาใต้ที่เรือสำราญขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าไปถึง

1. Arcadia หนัก 82,505 ตัน จุ 1996 คน ลำนี้ล่องไปรอบโลกค่ะ เป็นบริษัทเรือสำราญน้องใหม่มาแรงของวงการ ความพิเศษอยู่ที่บนเรือมีบาร์ทั้งหมด 14 บาร์และร้านอาหารของทีวีเชฟชื่อดัง Gary Rhodes (บอกแล้วว่า เรือสำราญเดี๋ยวนี้ไม่ใชเฉพาะของคนแก่แล้ว) และที่สำคัญสุดๆก็คือ โปรแกรม New Horizons Activities ที่ให้คุณสามารถเรียนการรำ Tai Chi, ออกแบบภายใน, การสอนทำอาหาร และอีกหลายๆโปรแกรม บอกแล้วว่าเริ่ดมากๆ